เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567
กว่าจะได้มาถึงจุดที่เป็นชัยชนะแห่งพระพุทธศาสนา ต้องใช้กำลังฟันฝ่าเป็นอันมาก ด้วยปณิธานอันมั่นคง ไม่ว่าจะถูกพายุถาโถมซัดมากี่ลูกจนกระทั่งต้องแลกด้วยชีวิต ก็ไม่ล้มเลิกปณิธาน ในพิธีหล่อพระครั้งนี้อาจารย์จึงห่มผ้าคลุมสีแดง เป็นสีแห่งพลังของอาจารย์และพลังเตโชธาตุ แต่บริเวณงานได้ขอให้ตกแต่งด้วยดอกไม้โทนชมพู เพราะเมื่อได้รับชัยชนะ ณ กาลนี้ ก็เป็นเวลาที่สมควรที่จิตจะได้ผ่อนคลาย แข็งแกร่งอย่างเดียวอยู่ไม่ได้ อ่อนโยนตลอดเวลาจิตก็ไม่ตื่น ต้องสมดุล
อาจารย์คัดเลือกภาพชุดนี้ด้วยตนเอง เพื่อเก็บไปที่ระลึกถึงประวัติศาสตร์ของสายธรรมในวันหล่อพระบรมโลกนาถรุ่นชัยชนะนี้
สิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือการเข้าไปกราบขอพุทธานุญาติในการหล่อองค์พระ ซึ่งเพียงยืนอยู่ที่ประตูทางเข้ากระแสพุทธบารมีก็แผ่มาอย่างโอฬารไพศาลยิ่ง กระแสคุณพระศรีรัตนตรัยแผ่มาร่วมอนุโมทนาสาธุการ โดยเฉพาะดวงจิตพระอาจารย์สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสีและองค์หลวงปู่เทพ โลกอุดร ก็ปลาบปลื้มได้มีมหามุทิตาจิตแก่กาลอันเป็นมหามงคล ที่ศิษย์ของท่านฟันฝ่าอุปสรรค ณ กาลกึ่งจนนำพาสายธรรม มหาชนให้ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และมีจิตเข้มแข็งในการปกป้องพระเกียรติพระบรมศาสดาอันหาผู้ใดเสมอเหมือน เทพพรหมปรารภอยากเป็นมนุษย์เข้าร่วมพิธีด้วย แต่มิอาจด้วยถูกกางกั้นด้วยภพ
ทวยเทวทำได้เพียงน้อมประนมกรอนุโมทนาสาธุการกับมนุสเทโวที่ได้ร่วมในงาน พร้อมรำพึงรำพันว่า
"เสียดายเหลือเกินหนอที่เราเกิดไม่ทันกาลนี้ อีกทั้งมนุษย์ผู้ไม่สามารถมาร่วมงานช่างพลาดมหาโอกาส หากพวกท่านได้ตระหนักในฐานะอันแท้จริงของผู้ทรงธรรมแล้วไชร้ ท่านคงไม่เพิกเฉย รีบขวนขวายโอกาสในการร่วมบุญในการสืบพระศาสนาในครั้งนี้ ปวงเราน้อมขออนุโมทนาสาธุการในจิตอันเป็นกุศล ที่ทุกท่านร่วมสืบพระศาสนาใต้ร่มเงาของผู้ทรงธรรม วาสนาเยี่ยงนี้ อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย แม้กัปป์หน้าก็อาจหาได้มีไม่"
อาจารย์ได้กราบพระบรมศาสดาพร้อมด้วยตัวแทนศิษย์ น้อมขอพุทธานุญาต อีกทั้งได้กล่าวกราบบังคมทูลถึงเหตุที่ปรารถนาใช้สีชมพู เพราะตรากตรำมานานนัก ขอข้าพระพุทธองค์ได้ผ่อนปรนจิตจากการตรากตรำด้วยสีชมพูพระพุทธเจ้าข้า"
ทรงมีกระแสในความนัยว่า เธอตรากตรำมามากมายเพื่อตถาคตเหลือเกิน ความกตัญญูรู้คุณของเธอนั้น แม้น้ำในมหาสมุทรทั้ง 7 ก็มิอาจรองรับพลังความกตัญญูรู้คุณนั้นได้ จงพักเถิดและตถาคตปลื้มใจและอำนวยพร
เมื่อออกจากปรำพิธีก็เป็นลำดับพระภิกษุสงฆ์ อันมีพระคุณเจ้าสัญชัย จิตตภโล เป็นประธานในพิธีสงฆ์ พระคุณเจ้าอมร คุณวุฒโฑ เป็นรองประธานในพิธีสงฆ์ อาจารย์ได้อธิษฐานจิตต่อหน้ามวลสาร และตัวแทนน้อมนำมวลสารให้พระคุณเจ้าสัญชัย และพระคุณเจ้าอมรอธิษฐาน จากนั้นจึงเริ่มทำพิธีหล่อ องค์พระ 7 องค์ โดยคณะพระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนต์ ดังลำดับภาพที่จะจารึกไว้ตลอดกาลนาน พระพุทธรูปองค์อื่นจะนำมวลสารแบ่งไปหล่อต่อไป เนื่องจากการหล่อพระพุทธรูปจำนวนมากต้องมีการควบคุมอุณหภูมิในเตาหล่อขนาดใหญ่
พระพุทธรูปทั้ง 7 องค์ที่หล่อในพิธี จะนำไปรักษาและอาจารย์จะจารหรือจารึกที่ใต้ฐานพระและนำอัญมณีใส่ปิดไว้ที่ใต้ฐาน ถือเป็นองค์พระรุ่นพิเศษในพิธีหล่อที่จะนำมาให้บูชาเมื่อถึงเวลาอันสมควรต่อไป..
พิธีการหล่อองค์พระบรมโลกนาถ รุ่นชัยชนะอันเลิศล้านี้ ศักดิ์สิทธิ์ครบองค์ประชุมทุกประการ ทั้งเชื่อว่าน่าจะเป็นพิธีหล่อองค์พระที่งามที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา ทั้งด้วยพิธีการอันประณีต ดอกไม้ที่จัดอย่างสดชื่นสวยงาม ต้นไม้ที่เรียงราย ผู้ร่วมพิธีที่จิตเปี่ยมศรัทธาแต่งกายงามมีคาราวะธรรม อันเทพยุดาล้วนสรรเสริญ "งามแท้หนอ อุบาสก อุบาสิกาผู้ร่วมงานนี้ งามหาใดเปรียบ หากเมื่อใดที่ท่านขึ้นมาสู่เทวโลก เราปรารถนาขอเป็นบาทบริจาค ติดตามท่านผู้งามด้วยจิตกตัญญู และคาราวะธรรมอันประเสิรญที่ปวงท่านแสดงตนต่อพระบรมศาสดา"
ขอขอบใจ และอนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลที่ร่วมสืบพระพุทธศาสนา ยกยอพระเกียรติอันเกริกไกรของพระบรมศาสดา
ขออาราธนาพรจากคุณพระศรีรัตนตรัย อีกทั้งบารมีที่อาจารย์บำเพ็ญไว้ดีแล้ว ขอให้ท่านจงได้รับพรจากการร่วมบุญสร้างพระในกาลนี้ ให้ทุกท่านเป็นผู้งดงามเสมอ งามด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม รุ่งเรืองด้วยโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ขอให้มีจิตใจหนักแน่นมั่นคงในความดี วิบากจางคลาย เพื่อมีกำลังใจในการดำรงอยู่ในทางอริยมรรค และทำกิจที่ปรารถนาได้สำเร็จลุล่วง
ขอให้มีความสุข ความเจริญ ให้สมปรารถนา และเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ ในท้ายที่สุด
..
อาจารย์
22 มกราคม 2567